ก่อนกาลเวลา จะทำให้เราลืมเลือนมันไป เราจะขอเล่าประสบการณ์ ตอนไปเรียนแพทเทิร์นไว้ ให้คนที่สนใจทราบเป็นข้อมูลค่ะ
เมื่อใช้แพทเทิร์นสำเร็จมาสักระยะ และไปเรียนตัดเย็บคอร์สระยะสั้นมาแล้ว เกิดความสนใจขึ้นมาว่า เค้าเขียนแพทเทิร์นกันยังไง จึงเริ่มหาข้อมูลหลักสูตรในอากู๋ ทั้งแบบเสียเงิน และแบบฟรี หาข้อมูลอยู่ค่อนปี จึงตัดสินใจไปเรียนแบบฟรีก่อนค่ะ ระหว่างนี้ ก็สะสมแพทเทิร์นสำเร็จทั้งงานยุโรป และงานญี่ปุ่นไป เต็มบ้าน
เมื่อตัดสินใจเรียนแบบฟรี ก็ต้องเลือกสถานที่เรียนค่ะ และในที่สุดก็เลือกไปเรียนที่ ศูนย์ฝึกอาชีพ มีนบุรี คอร์ส 4 เดือน เรียน เสาร์-อาทิตย์
ขอข้ามบรรยากาศวันปฐมนิเทศไปนะคะ เล่าวันแรกที่ไปเรียนเลยค่ะ
วันแรก คือ คนเยอะมาก เราไม่คิดเลยว่า ขนาดห้อง จำนวนที่นั่ง มันจะมีน้อยกว่าจำนวนคนที่ไปเรียน แน่นอน เราเลือกแถวหน้าสุด เพราะผู้คนมักจะกลัวการนั่งหน้า 555 แต่ถามว่า ยอมแพ้ไหม ไม่นะคะ คิดว่า เรียนๆ ไป คนคงน้อยลงเรื่อยๆ เพราะสถานที่ไม่อำนวยให้เรียนอย่างสะดวกสบาย (สำหรับเรา เป้าหมายมันใหญ่มาก ไม่ถอดใจง่ายๆ ค่ะ เบียดก็เบียด) คุณครู เขียนบนกระดาน บอกว่า ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง ในการมาเรียนหลักสูตรแพทเทิร์น
1. ดินสอ --> โรงเรียนแจกฟรีค่ะ
2. ยางลบ
3. ไม้บรรทัดสั้น 12 นิ้ว
4. ไม้บรรทัดยาว 24 นิ้ว
5. ไม้นกแก้ว
6. เทปใส
7. เข็มหมุด --> โรงเรียนแจกฟรีค่ะ
8. กระดาษก๊อปปี้ --> โรงเรียนแจกฟรีค่ะ ใช้ได้จนจบคอร์ส
9. กระดาษเขียนแพทเทิร์น --> งานเขียนแบบใช้กระดาษแบบถูก (แอบยับเวลากางออก) แต่งานขึ้นแบบโมเดลใช้กระดาษแบบแพง งานออกมาเนี้ยบกริบมาก กระดาษไม่ยับเลยค่ะ
10. สายวัด --> เราใช้ของญี่ปุ่น (สมบัติเก่า) สเกลเป๊ะมาก ขอบอก
11. ดินสอสีน้ำเงิน แดง --> เราใช้สีอื่นด้วย เป็นความสุขเล็กๆ ค่ะ
12. อาจารย์ไม่ได้บอกว่าต้องมี แต่เรามี แล้วทำให้ทำงานไวขึ้น คือ ไม้บรรทัดแพทช์ ของญี่ปุ่น บนไม้บรรทัด นอกจากจะมีตัวเลขบอกระยะแล้ว จะมีเส้นให้ด้วยค่ะ ระยะ 0.3 mm, 0.5 mm, 1 cm, 1.5 cm, 1.7 cm, 2 cm. ที่บอกเร็วเพราะ เวลาทำเผื่อเย็บงานขึ้นโมเดล ถ้าบอกเผื่อเย็บ 1 ซม. เราเอาเส้น 1 ซม.ทาบ แล้วลากปรืดๆ เลยค่ะ ไม่ต้องมาคอยวัดทีละจุดแล้วเชื่อมเส้นทีหลัง เรามีทั้งสเกลเป็นนิ้ว และเป็นเซนติเมตรค่ะ
พอได้อุปกรณ์แล้ว ก็เริ่มเรียนการวัดตัวกันแล้วค่ะ
วันที่ 3 เรียนไซส์มาตรฐาน และเริ่มเขียนแพทเทิร์นกระโปรงพื้นฐาน อาจารย์สั่งให้ทำไว้หลายๆ ตัว เพราะกระโปรงทุกแบบ จะแปลงจากกระโปรงพื้นฐานค่ะ จากนั้นภาคบ่าย ก็ขึ้นโมเดลกระดาษกัน โดยโมเดล จะย่อส่วนจากขนาดจริงครึ่งหนึ่ง เช่น ไซส์จริงยาว 50 ซม. โมเดลจะใช้ 25 ซม.
วันต่อๆ มา ก็เรียนเรื่องแพทเทิร์นกระโปรงแบบต่างๆ ใช้เวลาเป็นเดือนๆ ค่ะ ตอนนั้น ทำแพทเทิร์นกระโปรงคล่องมาก
หลังจากนั้นเริ่มเรียนแพทเทิร์นกางเกง เสื้อ การปิดเปิดเกล็ดเสื้อเพื่อเข้าเชฟ คอเสื้อแบบต่างๆ แขนเสื้อแบบต่างๆ ทำสาบเสื้อ สาบกระดุม ระบาย ช่วงนี้ งานยากขึ้น เวลากินข้าวก็ต้องรีบกิน เพราะต้องรีบมาทำโมเดลกระดาษ เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยค่ะ
พอเรียนชิ้นส่วนต่างๆ ครบหมดแล้ว เริ่มเข้าสู่การประยุกต์ เอาเสื้อกับกระโปรงมาต่อกันเป็นเดรส เสื้อต่อกางเกงเป็นจั๊มสูท
ปลายๆ คลาส เริ่มเรียนแพทเทิร์นชุดราตรี ชุดไทย ซึ่งเสียดายค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย
วิเคยเอาวิชาที่ครูให้มา ทำแพทเทิร์นชุดกี่เพ้าให้ลูกค้าด้วยนะคะ
อย่างที่บอกค่ะ ความไม่สะดวกสบาย ทำให้นักเรียนหายไปเกินครึ่ง นั่งเรียนกันสบายๆ ไม่ต้องเบียดกัน ใครสนใจไปเรียน เตรียมใจดีๆ นะคะ เป้าหมายที่สูงจะทำให้เราสู้จนจบคอร์สมาได้ค่ะ ด้วยความที่เรียนฟรี สถานที่แออัด ทำให้หลายคนถอดใจง่ายๆ เรียนไม่จบเยอะเหมือนกันค่ะ
ที่บอกว่าเป้าหมายเราสูง เพราะตอนนั้น เรามีแผนจะรับทำแพทเทิร์นด้วยค่ะ หลังเรียนจบ ก็มีลูกค้าสั่งทำแพทเทิร์นเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงจุดนึงที่เราคิดว่า ความรู้เรายังไม่พอค่ะ ก็เป็นที่มาของความคิดที่จะไปเรียนการทำแพทเทิร์นชั้นสูง และการทำแพทเทิร์นโดยใช้โปรแกรมค่ะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังนะคะ